สิ่งที่รบกวนการทำงานอย่างหนึ่งของคนยุคนี้สมัยนี้ คงหนีไม่พ้นอาการปวดเรื้อรัง อาการยอดฮิตที่มักพบในมนุษย์เงินเดือนอย่าง “ออฟฟิศซินโดรม” หรืออาการปวดตามส่วนต่างๆ เช่น คอ บ่า ไหล่ หลัง ข้อมือ ฯลฯ ซึ่งเกิดจากการนั่งทำงานหน้าจอคอมพิวเตอร์เป็นระยะเวลานานติดต่อกันหลายชั่วโมง โดยทีไม่มีการปรับเปลี่ยนอิริยาบถ หากเราส่องค้นหาวิธีการรักษาโรค จำพวกนี้จาก Google จะพบว่ามีมากมายหลายวิธี ตั้งแต่การนวด การทำกายภาพบำบัด หรือการรับประทานยา ฯลฯ แต่ท่านผู้อ่านทราบหรือไม่ว่า ปัจจุบันมีการรักษาด้วยทางเลือกใหม่ ที่กำลังอยู่ในกระแสและให้ผลลัพธ์ทางการแพทย์ที่น่าพอใจ นั่นคือ “Shock Wave” วันนี้มีโอกาสได้มาพูดคุยกับ นักกายภาพหลายท่านที่ สถานีลดปวดหรือคลินิกกายภาพบำบัดยูนิคแคร์สเตชัน รักษาเฉพาะทางด้านเวชศาสตร์ฟื้นฟู เพื่ออัพเดตเรื่องราวของเทคโนโลยีใหม่ล่าสุดให้เราได้รู้จักมากขึ้น

Shock wave therapy

การทำงานของ Shock wave เป็นอย่างไร
เป็นคลื่นกระแทกที่มีประสิทธิภาพสูงในการใช้รักษาคนไข้ที่มีอาการปวดระยะเรื้อรังโดยจะมีกระบวนการ เพิ่มการไหลเวียนของเลือดและลดอาการอักเสบได้ดี การส่งผ่านคลื่นกระแทก (Shock wave) เข้าไปในบริเวณที่มีอาการปวดเพื่อกระตุ้นให้ร่างกายเกิดการซ่อมแซมเนื้อเยื่อและกระตุ้นให้ร่างกายหลั่งสารลดปวดมาลดอาการปวดในบริเวณกล้ามเนื้อและเส้นเอ็นที่มีปัญหา จากนั้นร่างกายจะเกิดกระบวนการซ่อมสร้างเนื้อเยื่อใหม่จะช่วยลดปวดได้โดยลดปริมาณสารสื่อประสาทที่ส่งสัญญาณปวดและกระตุ้นให้หลั่งสารลดปวด จึงเห็นผลได้ทันทีหลังรักษา (ในกรณีที่เป็นในระดับความรุนแรงเล็กน้อยหรือเพิ่งเริ่มมีอาการ)
Shock wave รักษาโรคอะไรได้บ้าง
- ปวดข้อศอก เอ็นข้อศอกอักเสบ
- พังผืดฝ่าเท้าอักเสบ / รองช้ำ
- ปวดไหล่ / ข้อไหล่ติด / เอ็นข้อไหล่ฉีกขาด
- ปวดหลัง กล้ามเนื้อสะโพกหนีบเส้นประสาท
- ข้อเท้าพลิก/แพลง
- ข้อเข่าเสื่อม / เอ็นข้อเข่าอักเสบ / บาดเจ็บจากกีฬา
- ออฟฟิศซินโดรม (Office syndrome)


ผลของ Shock wave เป็นอย่างไร
- ลดความตึงตัวของกล้ามเนื้อ
- กระตุ้นกระบวนการซ่อมแซมของกล้ามเนื้อ
- ลดอาการปวดโดยจะไปลดสารสื่อประสาทที่ส่งสัญญาณอาการปวด
- ลดอาการอักเสบโดยไปยับยั้งกระบวนการอักเสบให้สั้นลง
- เพิ่มการไหลเวียนของเลือด
Shock wave อันตรายไหม?
เครื่อง Shock wave เป็นเครื่องมือที่มีความปลอดภัยได้รับการรับรองจาก FDA สหรัฐอเมริกาและองค์การอาหารและยาในประเทศไทย เครื่องมือ Shockwave ไม่ได้ก่อกำเนิดความร้อนหรือคลื่นสะสมใดๆต่อร่างกายจึงมีความปลอดภัยสูง
ผลที่ได้จากการรักษา
ผู้ป่วยจะมีอาการปวดลดลงเกือบ 80% หรือบางรายหายปวดหลังทำการรักษาในครั้งแรก(ในกรณีที่เป็นในระดับความรุนแรงเล็กน้อยหรือเพิ่งเริ่มมีอาการ)จากนั้นควรเว้นระยะห่างการรักษาครั้งถัดไป 3-7วันเพื่อให้ร่างกายได้ซ่อมแซมการอักเสบ
